การเลือกใช้งานตู้ Dry Cabinet ให้เหมาะสมกับการเก็บรักษาอุปกรณ์


Posted 17 Nov 2023 09:34 | 697 views

การเลือกใช้งานตู้ Dry Cabinet ให้เหมาะสมกับการเก็บรักษาอุปกรณ์เป็นการช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ คงอยู่ในสภาพดีและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 

 

ตู้ Dry Cabinet หรือที่เรียกกันว่าตู้ควบคุมความชื้น เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาระดับความชื้นภายในตู้ให้คงที่ โดยระดับความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ นั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์

สิ่งของที่ต้องการเก็บในตู้ควบคุมความชื้น

ผงสารเคมี : เรียกได้ว่าตู้ควบคุมความชื้นมีความสำคัญมากเลยทีเดียวในการเก็บรักษาสารเคมีประเภทผง สำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์สำหรับครัวเรือน และการทดลองวิทยาศาสตร์ ที่ควรจะถูกเก็บไว้อย่างมิดชิดในความชื้นที่มีระดับต่ำกว่า 40%RH เพื่อรักษาคุณภาพและป้องกันการเกิดปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศที่จะส่งผลมากต่อคุณสมบัติของสารเคมี

เครื่องเซรามิค : เครื่องใช้เซรามิค เครื่องลายคราม และสินค้าระดับพรีเมี่ยม ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะเก็บไว้ในในโกดังธรรมดา ที่มักมีสภาพอากาศในอุณหภูมิห้อง หรืออุณหภูมิที่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เพราะตัวแปรในเรื่องของอากาศมีส่วนสำคัญมากเลยทีเดียวที่จะทำให้เกี่ยวความเสื่อมโทรมของลวดลาย และผิวหนังของเซรามิค ดังนั้นสินค้าเซรามิค หรือแม้แต่เครื่องใช้เซรามิคทั่วไปก็ควรจะต้องเก็บรักษาไว้ใน “ตู้ควบคุมความชื้น” ที่สามารถควบคุมได้ดีในระบบ 30-50%RH

ของสะสม ของเก่า : ตู้ควบคุมความชื้นไม่เพียงแต่จะถูกใช้ในอุตสาหกรรม หรือการใช้เชิงพาณิชย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้สำหรับเก็บรักษาของสะสมได้เป็นอย่างดี เพราะความเปราะบางของบรรดาของสะสมโบราณ ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ งานเซรามิคโบราณ หรือสิ่งของต่างๆ มักจะโดนทำลายด้วย “ปฏิกิริยากับความชื้นในอากาศ” จนผุพังอยู่เสมอ ปัญหานี้แก้ได้ด้วยการเลือกใช้ “ตู้ควบคุมความชื้น” ที่สามารถควบคุมได้ดีในระบบ 40-65%RH

เอกสาร รูปถ่าย : หลายท่านมักจะมองข้ามกับเก็บรักษาเอกสารสำคัญ จนโดนความชื้นทำให้เกิดคราบเหลือง เอกสารเสียหาย ภาพถ่ายที่เก็บไว้สีเพี้ยน ปัญหาเหล่านี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นถ้าการเก็บรักษาไว้ในตู้ควบคุมความชื้นที่ระดับ 30 - 50 %RH ซึ่งจะสามารถคงความสมบูรณ์ของเอกสารไว้ได้อย่างดี

กล้องถ่ายรูปและเลนส์ : ตู้ควบคุมความชื้นมักจะนิยมถูกใช้ในการเก็บรักษากล้องถ่ายรูปและเลนส์กันอยู่เสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาคุณภาพของกล้องและเลนส์ที่มีราคาค่อนข้างสูง รวมไปถึงป้องกันไม่ให้เชื้อราเข้ามาสร้างปัญหาให้กับการถ่ายรูป ดังนั้นควรเก็บรักษาในการควบคุมความชื้นที่ระดับ 30-40%RH อย่างมิดชิด

เมล็ดพืช เมล็ดพันธุ์ : การเก็บรักษาเหล่าเมล็ดพันธุ์มีความสำคัญมากเลยทีเดียวที่จะต้องควบคุมความชื้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจาก “ความชื้น” คือตัวแปรหลักที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์งอกและเจริญเติบโตก่อนที่จะได้เวลาที่เหมาะสม ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การเก็บรักษาใน “ตู้ควบคุมความชื้น” ที่สามารถควบคุมได้ดีในระดับที่ต่ำกว่า 10%RH

ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์: หากท่านใดต้องการจะใช้ตู้ควบคุมความชื่นในการเก็บชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องเลือกเก็บใน “ตู้ควบคุมความชื้นที่คุมได้ในระดับที่ต่ำมาก” เนื่องจากสิ่งของประเภทนี้ต้องการความชื้นในระดับที่ต่ำกว่า 5%RH ซึ่งจะต้องเก็บในตู้ที่มีการลดระดับค่าความชื้นได้อย่างรวดเร็วหลังเปิดปิดตู้ เพื่อรักษาคุณภาพของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เอาไว้

 

การเลือกใช้งานตู้ Dry Cabinet ให้เหมาะสมกับการเก็บรักษาอุปกรณ์เป็นการช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ คงอยู่ในสภาพดีและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 

Super Dry

เป็นตู้ลดความชื้นแบบอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติซึ่งมีการควบคุมความชื้นแบบดิจิตอลระหว่าง 1-50% RH 

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดเก็บที่มีความชื้นต่ำเป็นพิเศษรวมถึงการป้องกัน ESD สำหรับการใช้งานในโรงงานต่างๆ

Auto Dry

เป็นตู้ลดความชื้นแบบอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติที่มีการควบคุมความชื้น RH 30-50% ดีไซน์ที่ประหยัดพลังงานและขนาดต่างๆ

ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย

Special

ตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ Super Dry ตู้ซีรีส์พิเศษมีฟังก์ชันพิเศษมากมาย เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิและระบบฟอกอากาศ ซีรี่ส์นี้เป็นโซลูชันที่ยอดเยี่ยมสำหรับวัตถุประสงค์ทางอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ

 

 

ที่มา: Mostori.com, bard.google.com, chat.openai.com