Posted 26 Sep 2025 15:25 | 7 views
แค่ทดสอบหน้าประตู…ยังไม่พอ! วิธีสร้างเกราะป้องกัน ESD ที่ครอบคลุมทั้งโรงงาน
หลายโรงงานอาจคิดว่า “มีเครื่องทดสอบบุคลากรหน้าประตู EPA ก็พอแล้ว” แต่ความจริงแล้วปัญหา ESD (ไฟฟ้าสถิต) มักเกิดขึ้น ระหว่างที่คนทำงาน เช่น สายข้อมือหลุดโดยไม่รู้ตัว รองเท้าเสื่อมสภาพ หรือพื้นบางจุดไม่ใช่ ESD จริง ผลคือชิ้นงานเสียแบบสุ่ม ๆ หรือแฝงจนไปเสียตอนลูกค้าใช้งาน — เสียชื่อและเสียต้นทุนโดยที่หาสาเหตุแทบไม่เจอ
ทำไมการทดสอบแค่ “ตอนเข้า” ถึงไม่พอ?
สายข้อมือหลุดระหว่างกะ → คนเริ่มงานแบบปลอดภัย แต่กลางกะไม่มีใครรู้ว่าสายไม่ต่อกราวด์แล้ว
รองเท้า ESD อย่างเดียวไม่พอ → ถ้าพื้นบางจุดไม่ใช่ ESD หรือสกปรกมาก แรงดันขณะเดินยังพุ่งเกิน 100 V ได้
งบประมาณจำกัด → เครื่องพรีเมียมที่เก็บข้อมูลได้ละเอียด ราคาสูง ติดได้ไม่กี่จุด ผลคือ “มีแต่จุดหลักที่ตรวจได้”
มาตรฐาน ANSI/ESD S20.20 บอกชัดว่า บุคลากรทุกคนต้องถูกผูกกราวด์ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ก่อนเริ่มงาน เพราะฉะนั้นโรงงานสมัยใหม่จึงนิยมวางระบบ 3 ชั้น
ทดสอบก่อนเข้า – ใช้เครื่อง tester ตรวจสายข้อมือ/รองเท้าให้ผ่านก่อนเข้าพื้นที่
มอนิเตอร์ระหว่างทำงาน – โดยเฉพาะงานนั่ง ใช้ continuous monitor จับสายหลุดได้แบบเรียลไทม์
ตรวจยืนยันระบบรองเท้า–พื้น – ทดสอบ STM97.2 ให้มั่นใจว่าแรงดันขณะเดินไม่เกิน 100 V
แนวทางที่หลายโรงงานเลือกคือ ใช้ระบบผสมผสาน
จุดหลัก ใช้เครื่องแบบ Smart logger (เช่น DESCO SmartLog Pro) ที่เก็บชื่อพนักงานและออกรีพอร์ตได้ละเอียด
จุดรอง กระจายเครื่อง Digital ESD Combo Tester แบบคุ้มงบ ไปตามประตูย่อยหรือหน้าสายการผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงาน 100% ต้องผ่านการทดสอบก่อนแตะชิ้นงาน
ตัวอย่างเครื่องที่ตอบโจทย์: MOSTORI AXON
MOSTORI พัฒนา AXON – Digital ESD Combo Tester สำหรับโรงงานที่อยาก “ติดให้ครบ” โดยไม่ต้องใช้งบก้อนใหญ่
ทดสอบได้ทั้ง wrist strap + รองเท้า (ซ้าย/ขวา) ในเครื่องเดียว
ตั้งค่า Pass Window ได้ เช่น 0.75–35 MΩ (wrist strap), 100 kΩ–100 MΩ (footwear)
ต่อรีเลย์กับประตูหรือ PLC ได้ทันที → ไม่ผ่าน = ไม่เข้า
ใช้งานง่าย ทนสภาพแวดล้อมโรงงานไทย และราคาต่อจุดเข้าถึงได้
ผลลัพธ์ที่ได้คือ ครอบคลุมทั้งโรงงาน ลด NG ที่หาสาเหตุไม่เจอ และพร้อม Audit ได้จริง เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าทุกคนถูกทดสอบทุกกะ
#ESD #อิเล็กทรอนิกส์ #ควบคุมไฟฟ้าสถิต